คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดโครงการจัดการความรู้ ภายใต้กิจกรรม “ดาว Dent เด่น”  เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

68 ครั้ง

คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดโครงการจัดการความรู้ (Knowledge Management) ภายใต้กิจกรรม “ดาว Dent เด่น”  หัวข้อ **“ดาว Dent เด่น ด้านวิชาการ: สอนสร้างสุข วิจัยสร้างสรรค์ และเรียนรู้สร้างสุข”** ในวันพุธที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมนิธิภาวี ศรีสุข ชั้น 5 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่

**รศ.ดร.ทพญ.วรานุช ปิติพัฒน์** แขนงวิชาทันตสาธารณสุข, ได้แชร์ประสบการณด้านงานวิจัยสร้างสุข และปัจจัยในความสำเร็จ คือ การทำงานให้ใช้ข้อมูลเพื่อนำเสนอความเป็นจริง การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับการถ่ายทอดที่ดี คือการมี Menter ที่ดี และสามารถสร้าง NetWork ในการทำงานในหลาย ๆ ด้านได้ อีกทั้งการย่อมรับความเสี่ยงเพื่อการทำงานที่ท้าทาย ทำให้สามารถทำงานประสบผลสำเร็จได้ โดยยึดหลัก 3P  คือ
1.Passion เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ คือการรักในสิ่งที่ทำ
2.Passion ความมุ่งมั่นอดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและการถูกปฏิเสธ
3.People ความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกศิษย์ เพื่อร่วมงานและเครือข่าย
เป้าหมายสูงสุดของชีวิต คือ “อยากแข็งแรง”
“ถ้าพี่มีอายุยืนยาว พี่อยากจะแข็งแรง และช่วยเหลือตัวเองได้จนวาระสุดท้ายของชีวิต”
֍Very Simple Think In Life֍
เราจะสวยได้เมื่อเรายิ้ม มองโลกในแง่บวก เคล็ดลับของความสุขคือการทำในสิ่งที่รัก

**รศ.ดร.ทพ.จรินทร์ ปภังกรกิจ** แขนงวิชาชีววิทยาช่องปาก ได้แชร์ประสบการณด้านสอนสร้างสุข และปัจจัยในความสำเร็จ ด้วยความชอบเป็นอาจารย์  วิชาไหนที่เรียนไม่รู้เรื่อง ที่อาจารย์สอนไม่มีเรื่อง จะเป็นวิชาที่ทำคะแนนได้ดี เพราะเรายิ่งต้องไปอ่านเพิ่ม เรียนด้วยตนเอง และได้ติวเพื่อนในวิชานั้น ทำให้การสอนเพื่อนและเพื่อนเข้าใจจากเรื่องที่ยากทำให้เพื่อนเข้าใจ ทำให้ค้นพบว่าการสอนเรามีความสุข           ในช่วงที่เรียนเป็นคนชอบทำกิจกรรมทำให้เราได้รู้จักโลกภายนนอกคณะทันตแพทยศาสตร์ ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ทำให้ได้รู้จักเพื่อนคณะอื่น การเป็นนักกิจกรรม มีเพื่อนคือคุณหมอกฤษดา ชวนทำกิจกรรม ซึ่งถือเป็นไอดอล และการเป็นนักกิจกรรมขอคุณหมอกฤษฎา เป็นทันตแพทย์คนแรกที่เป็นผู้จัดการ สสส. และเป็นทันตแพทย์คนแรก

ที่เป็นผู้อำนวยการไทยทีบีเอส  ปัจจุบันทำงานเครือข่ายการเรียนรู้  ทำให้เรียนรู้การเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ไม่เต็ม 100 เป็นอย่างไร จากการเป็นนักกิจกรรม

การทำงานในบทบาทของทันตแพทย์ในช่วงแรก ได้ทำงานร่วมกับทันตาภิบาลและทีมสหวิชาชีพ ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์  สามารถทำงานร่วมกันข้ามศาสตร์และสร้างเครือข่าย และพบเด็ก ๆ ในพื้นที่  อยากมีร้านเช่าหนังสือในคลินิกผดุงครรภ์ และพบหนังสือที่ทำให้เข้าใจปัญหาสุขภาพของคนไทย ทำให้เปิดมุมมองด้านสุขภาพ  

การที่มาเป็นอาจารย์ที่ Oral Bio เป็นสาขาที่ต้องเชื่อมโยงศาสตร์อื่น ๆ ทำให้อาจารย์ในสาขาเปิดรับการทำงานที่มากขึ้น  ได้มาทำงานเครือข่ายโรงเรียนทันตแพทย์สร้างสุข ได้ทำงานกับอาจารย์ผู้ใหญ่หลายท่าน และได้เรียนรู้กับอาจารย์และทันตแพทย์รุ่นน้อง ทำให้เราได้ความรู้มากขึ้น  การทำงานโรงเรียนทันตแพทย์สร้างสุขทำให้เราสร้างสุขให้ตัวเองและสร้างสุขให้ผู้อื่นด้วย   คนๆ เดียวไม่มีมิติเดียว การเป็นอาจารย์ทำให้ทราบถึงทักษะอะไรที่นักเรียนและนักศึกษาควรมี ทัศนคติที่ครูควรปลูกฝังให้เด็ก คือการเขียนข้อความในเอกสารคำสอน  ต้น ชม.จะชวนให้เด็กคิด เพื่อกระตุ้นการคิด

                   อาจารย์ที่ผ่านมาในชีวิตก็เป็นต้นแบบของเรา หากเรารู้สึกแย่และต้องการกำลังใจเราจะนึกถึงท่านเหล่านั้น หลังการประชุมทุกครั้งต้องยกมือถามเพื่อ คอนติบิว สิ่งเหล่านั้น  ในการปัจฉิมนิเทศจะเห็นสายตาและครอบครัวที่ทำให้รู้ว่าเวลาที่เรามองนักศึกษาในชั้นเรียน จะเห็นว่าทุกคนที่เป็นเด็กเหมือน ๆ กัน แต่เวลาเค้าไปอยู่กับครอบครัวเค้าเป็นคนที่พิเศษ หากเรานึกถึงตรงนี้เราจะเข้าใจเค้า

การเป็นอาจารย์คือการเป็นคนที่เข้าใจในเนื้อหาและสามารถถ่ายทอดมายังนักศึกษา ต้องเข้าใจนักศึกษาเข้าใจความเป็นตัวเค้า การเข้าใจในธรรมชาติของเด็ก ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร หน้าที่เราคือคนคอยสนับสนุนให้เค้าเป็น ไม่ต้องตาดหวังในสิ่งที่เราอยากให้เค้าเป็น  พยายามทำให้ชีวิตคือความเรียบง่าย และสุขภาพดีด้วย  ต้องมีการแสดงพลังเพื่อให้เป็นแบบอย่างเพื่อให้นักศึกษาไม่รู้สึกแย่ เทคนิคคือการนึกถึงครูเก่า   หลักสำคัญของความเป็นครูคือความมีเมตตา   ทำให้นักศึกษามีความสุข  การพัฒนาการสอน การอัดคลิปวิดีโอ  การไม่เร่งรีบกับเค้า เกิดสังควัตถุ 4 (ทาน คือการให้การเสียสละ  ปิยวาจา คือ การพูดจาด้วยถ้อยคำไพเราะอ่อนหวาน จริงใจ อัตถจริยา สมานัตตตา การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ โดยประพฤติตัวให้มีความเสมอต้นเสมอปลาย วางตัวดีต่อกัน

ทำให้สังคมอยู่เป็นสุข  ทำให้ครูกับนักเรียนมีความสุข  นักศึกษาจะมีความสุขคือได้สนุกกับสิ่งที่เรียน เด็กจะสุขจากการได้เรียนรู้ ได้พัฒนา มีคุณค่า  การพัฒนาการประเมิน และการพัฒนาระบบ IT

*****การที่มีลูกศิษย์ทำให้การเป็นครูมีความหมายขึ้น ทำให้เราได้เรียนรู้*****
*****การเป็นศิษย์กับครูคงหยุดไม่ได้ และเราคงเป็นครูเค้าตลอดไป*****
*****สิ่งสำคัญคือ “ฉันทะ” มีความสุขในการทำงาน และได้ทำงานที่เรารักก็ยิ่งมีความสุข*****
*****ความสำเร็จ มีหลายปัจจัย แต่ให้อยู่กับสิ่งปัจจุบัน*****

และ **อ.ทพ.ธนภัทร ถนอมดำรงศักดิ์** แขนงวิชาปริทันตวิทยาได้แชร์ประสบการณด้านเรียนสร้างสุขและปัจจัยในความสำเร็จ การเรียนจะอยู่ในสายวิทย์ตลอด และถูกปลูกฝังเรียนสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ  ตัดสินใจเลือกเรียนทันตแพทย์ เพราะไม่อยากแพทย์ขึ้นเวรเพราะกลัวผี

เป็นคนชอบทำกิจกรรม  การเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ทำกิจกรรมทุกอย่าง เล่นกีฬาน้องใหม่เกือบทุกอย่าง มีการทำกิจกรรมนันทนาการ การเต้น การออกกำลังกาย  ควบคู่กับการเรียน ผลการเรียนก็อยู่ในระดับดี  หากถามว่าการเรียนมีความสุขหรือไม่ก็จะถามตัวเองว่าสุขกี่โมง  เมื่อมาเรียนที่คณะทันตแพทยศาสตร์ จุดเปลี่ยนในชีวิต การเรียนคณะฯนี้ต้องมีความอดทน เจอวิชา LAB  ที่ต้องทำกับหุ่นจำลอง เริ่มไม่มีความสุขแล้ว ต้องมาทบทวนตัวเอง จะไปต่อได้ป่าว เลือกที่สู้ต่อ อยู่ทำ LAB นอกเวลาทุกวัน ฝึกฝนเยอะขึ้น ค่อย ๆ ดีขึ้นจนขึ้นชั้นคลินิก เริ่มมีความสุขมากขึ้น ใช้หลักจิตวิทยาของความสุข คือ PERMA

P = Positive Emotion  คือ อารมณ์เชิงบวก
E = Engagement  คือ ความผูกพันและการมีส่วนร่วม โดยเฉพาะกับตัวของเราเอง ใช้ชีวิตให้มีชีวิต
R = Relationships คือ ความสัมพันธ์เชิงบวก
M = Meaning คือ  ความหมายในชีวิตของทุกคน
A = Accomplishment/Achievements  คือ ความสำเร็จ/การบรรลุเป้าหมายในชีวิต  (การบรรลุเป้าหมายในหลากหลายมิติ)

*****การทำตนให้ถึงพร้อมปล่อยวางในผล*****

การจัดโครงการครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาคณะทันตแพทยศาสตร์ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และวิสัยทัศน์ของบุคลากร เพื่อการปฏิบัติงานที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ โครงการจึงมุ่งเน้นการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งแบบชัดแจ้ง (explicit knowledge) และแบบฝังลึกในตัวบุคคล (implicit knowledge) ผ่านกระบวนการเรียนรู้ การเสวนา และการถอดบทเรียนจากประสบการณ์จริง อันจะช่วยพัฒนาศักยภาพบุคลากรในทุกสายงาน ทั้งวิชาการ วิชาชีพ และสายสนับสนุน ซึ่งการเรียนรู้้ต้องถูกปลูกฝังลงไปในวิถีีการปฏิบัติิงานขององค์์กร และการเน้นการสร้างองค์์ความรู้้และแบ่งปันความรู้้ทั่วทั้งองค์กร


ชมภาพเพิ่มเติม