ศูนย์ความเป็นเลิศ : การดูแลผู้ป่วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่ (Cleft and Craniofacial Deformities Center)

บริบท

ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นความพิการบริเวณกะโหลกศีรษะและใบหน้าที่มีอุบัติการณ์ที่พบมากที่สุด โดยอาจเกิดร่วมกับกลุ่มอาการอื่น ๆ เช่น 22q11 deletion หรือ Down’s syndrome  และอาจเกิดร่วมกับความผิดปกติอื่น ๆ เช่น โรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด หรือภาวะพัฒนาการช้า การที่ผู้ป่วยมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ จะทำให้เกิดปัญหาหลากหลายมิติทั้งด้านความสวยงามของใบหน้า  การกลืน การพูด  การได้ยินซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาการเด็ก  และการสบฟันร่วมกับโครงสร้างกระดูกขากรรไกรที่ผิดปกติที่ส่งผลระยะยาวในการดำรงชีวิตในวัยรุ่นและวัยทำงาน

ในประเทศไทยโรคปากแหว่งเพดานโหว่เป็นโรคที่พบได้บ่อยประมาณ 2.14 คนในเด็กแรกเกิน 1,000 คนสำหรับภาคอีสานพบได้ประมาณ 2.5 คนในเด็กแรกเกิน 1,000 คน ซึ่งถือได้ว่าพบเป็นอันดับต้นๆของโลก และภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคในช่องปากอื่น ๆ เช่น โรคฟันผุ หรือฟันผิดปกติจากพัฒนาการ ได้แก่ การเกิดฟันหาย หรือเคลือบฟันผิดปกติ ดังนั้น  โรคนี้จึงส่งผลอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตในหลากหลายมิติ และจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาต่อเนื่องในช่วง 20 ปีแรกของชีวิตจากบุคลากรสหสาขา คลินิกทันตกรรมจัดฟัน คลินิกศัลยศาสตร์ช่องปาก ใบหน้าและขากรรไกร และคลินิกทันตกรรมเด็ก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับศูนย์ตะวันฉาย  เป็นสถานที่รับดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ตั้งแต่แรกคลอดจนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่ ในลักษณะของทีมสหสาขาวิชาชีพ  โดยมีบทบาทร่วมดูแลรักษาผู้ป่วยตามแต่ละช่วงวัยให้เป็นไปอย่างเหมาะสม มุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมและยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง  และพัฒนาประสิทธิภาพในการรักษาเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นในทุกมิติ