ทุน มข.คืนคนดีสู่สังคม ต่อยอดการให้ไม่สิ้นสุด

144 ครั้ง



        กว่า 53 ปีที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งใจผลิตบัณฑิตอันพึงประสงค์คืนสู่สังคม    ปัจจุบันเขาเหล่านั้นได้นำความรู้ไปช่วยเหลือผู้คน สร้างประโยชน์ต่อสังคมมากมาย  ไม่แน่ว่าการช่วยเหลือคนเพียงหนึ่งคนอาจสามารถช่วยคนอื่นได้อีกหลายคน เช่นเดียวกับศิษย์เก่านักเรียนทุน  3 ท่านนี้ ที่นับเป็นต้นแบบการให้ที่ไม่สิ้นสุด

“ชินกร” จากลูกชาวนา สู่ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท
         ชินกร วิชิต ศิษย์เก่าวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  รุ่น 32  แม้ระยะเวลาจะผ่านมากว่า 20 ปี แต่เขายังจำทุกโอกาสที่ทำให้สามารถก้าวสู่การเป็นผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการบริษัทได้สำเร็จ โดยเฉพาะการได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น 
        “ผมเป็นลูกชาวนา ในจังหวัดบุรีรัมย์ ยอมรับว่าฐานะค่อนข้างยากจน แต่เราสนใจเรียนมาก เลยลองมาสอบดูทั้งที่รู้ว่าอาจจะไม่มีเงินเรียน พอสอบข้อเขียนติด และรวบรวมเงินมาสัมภาษณ์เราก็บอกอาจารย์ไปตามตรงว่า ผมไม่มีเงินนะ อาจารย์ก็ยิ้มแล้วบอกเราว่า ไม่เป็นไรที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีทุนให้คุณมากพอถ้าคุณตั้งใจ” 
         คำพูดอาจารย์วันนั้นเป็นเหมือนแสงสว่างนำทางให้ชินกร ตั้งใจเรียนและสามารถคว้าทุนมหาวิทยาลัย ต่อเนื่องกัน 4 ปี ประคับประคองตนเอง กระทั่งสำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง         
       “นาทีนั้นทุนสำคัญสำหรับผมมาก เพราะวิศวะฯ ค่าเทอมจะแพงกว่าคณะอื่น เนื่องจากมีค่าอุปกรณ์การเรียน  คณะอื่นๆค่าเทอม 2500-3000 แต่ของเราบวกไปอีก 5 พัน ผมขยันตั้งใจเรียนจึงได้ทุนทุกปี สามารถแบ่งเบาทางบ้าน เรียกว่าไม่ได้รบกวนทางบ้านเลย  ถ้าไม่มีทุนจากมหาวิทยาลัยในวันนั้น ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะมีเงินเรียนจนมายืนอยู่จุดนี้ไหม”  
      หลังสำเร็จการศึกษา วิศวกรหนุ่มทำงานตำแหน่งวิศวกร บริษัทก่อสร้าง นำความรู้ที่ได้มาพัฒนางาน พัฒนาบริษัท อย่างเพียรพยายาม  กระทั่งก้าวสู่การเป็นผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการบริษัท เจ ที เค พรีคาสท์ จำกัด ในที่สุด และไม่ลืมมอบทุนกลับคืนสู่น้อง สร้างโอกาสให้ผู้อื่นเช่นที่ตนเคยได้รับ  
       “ผมไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่โอกาสที่เราได้รับวันนั้นไม่เคยลืม  ความรู้ที่เราได้รับเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ผมสำนึกเสมอ และยิ่งเข้าสู่วงการวิศวะฯ ทำให้รู้ว่า วิศวกรรมโยธา ขอนแก่น ไม่ธรรมดา นับเป็นลำดับต้นๆ ของเมืองไทย วันนี้เมื่อเราพออยู่ได้ เราก็เริ่มอยากเป็นผู้ให้ มอบโอกาสให้ผู้อื่น คืนทุนให้น้อง สุดท้ายชีวิตคนไม่มีอะไร ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณเงิน แต่ขึ้นอยู่ว่าเราแบ่งปันให้ผู้อื่นไหม เราให้น้อง น้องก็นำไปต่อยอดให้ผู้อื่นไม่รู้จบ นี่คือความสุขของผม เมื่อก่อนคนจนแบบเรามีเยอะ แต่ปัจจุบันคิดว่าน้อยลง แต่อาจมีอยู่ ศิษย์เก่าเรามีถึง 50 รุ่น หากทุกคนช่วยกัน ก็จะช่วยลดงบประมาณรัฐ แบ่งเบามหาวิทยาลัย น้องก็มีโอกาสเยอะขึ้น ขณะที่น้องที่ได้รับทุนก็ต้องตระหนักถึงความเอื้ออาทรที่พี่ๆ มอบให้ พี่ไม่ได้หวังว่า คุณจะ เด่น ดี ดัง เก่ง กว่าคนอื่นๆ หวังแค่เรียนจบ ออกมาเป็นคนดี เกื้อกูล ครอบครัว และแบ่งปัน มอบโอกาสให้ผู้อื่นต่อๆ ไป”
         หนุ่มใหญ่วิศวะฯ มองว่าจำนวนเงินน้อยหรือมากไม่สำคัญ เพียงแต่เมื่อเราดูแลตนเอง ครอบครัวได้แล้ว การแบ่งบันไปยังน้องๆ ให้มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นเป็นเรื่องราวของการให้ไม่รู้จบ    
 
 หมอฟัน หมอลำจิตอาสา
        หมอโมฮัล ศกเขียว ทันตแพทย์หนุ่มใหญ่ใจอาสา ที่เริ่มเรียนคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในวัย 28 ปี ตามโครงการขยายโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทันตาภิบาลได้ศึกษาต่อเมื่อปี พ.ศ. 2544  สิ่งที่เป็นอุปสรรคในการเรียนกลับไม่ใช่อายุ แต่เป็นกำลังทรัพย์ เนื่องจากต้องส่งตนเองเรียนกระทั่งสิ้นสุดการศึกษา 
         “หลังจบมัธยมศึกษา6 ได้ทำงานสาธารณสุขขอนแก่นอยู่ 2 ปี การเป็นหมอฟันเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อมสำหรับเรา เวลานั่งรถผ่านป้ายมหาวิทยาลัยเราจะฝันว่าถ้าได้เรียนที่นี่คงดี กระทั่งคณะทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนก่น เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทันตาภิบาลได้ศึกษาต่อ จึงสอบเข้าเรียนได้สำเร็จ ขอบคุณมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เปิดประตูให้ชีวิตใหม่แก่เรา และมอบทุนการศึกษาให้ค่าหน่วยกิต ค่าเรียน  อยู่หอฟรี สนับสนุนค่าวัสดุอุปกรณ์ ขณะที่เราต้องกินอยู่อย่างประหยัดตั้งใจเรียน”  
         ปัจจุบันหมอโมฮัล เปิดคลินิกทันตกรรมในจังหวัดอุบลราชธานี ใช้ความรู้มาช่วยเหลือผู้ป่วยงบประมาณน้อย และใช้ดนตรีพื้นบ้านอย่างหมอลำรณรงค์ให้ประชาชนตระหนึกถึงสุขภาพอีกด้วย
        “สำหรับคนทั่วไป ถ้าไม่แพงมากก็ฟรี หรือลดครึ่งราคา และทางคลินิกจะนิมนต์พระมาทำฟันฟรีปีละ 2 ครั้ง  นอกจากนี้ยังแต่งเพลงหมอลำรณรงค์เกี่ยวกับสุขภาพ ฝึกพนักงานที่คลินิกให้เป็นนางรำ เวลามีคนไข้มาก็จะร้องเพลงเกี่ยวกับสุขภาพ ให้ประชาชนตระหนัก” 
         เมื่อมีเวลา หมอโมฮัล จะกลับไปให้กำลังใจคณาจารย์และน้องๆ พร้อมมอบเงินที่พอแบ่งปันได้อยู่เสมอ 
         “เราก้าวมาจากโคลนจึงรับรู้ถึงความลำบาก ถ้ามีคนสถานะคล้ายเรา เราจะอยากเติมเต็มให้เขาไม่รู้สึกขาดและต่อสู้กระทั่งสำเร็จเหมือนเรา เราจะรอให้เหลือเก็บเหลือใช้แล้วค่อยแบ่งปันนั้นคงจะไม่ทันเวลา เพราะมีน้องอีกหลายคนที่ต้องสูญเสียโอกาสเพราะไม่มีกำลังทรัพย์ ฉะนั้นถ้ามีโอกาส เราควรให้น้องสม่ำเสมอ เป็นกำลังใจให้น้องผู้ที่ขาดแคลน ตั้งใจเรียนเพื่อมาพัฒนาชาติของเราต่อ” 
 
 นิรินาม  ความหวังของชุมชน 
         นิรินาม งามวาจา  เด็กหนุ่มจากจังหวัดนครพนม หนึ่งเดียวในตำบลที่สอบเรียนที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้สำเร็จ วันนี้เขาสามารถสานฝันของตนเองและคนในชุมชนด้วยดีกรีนักเรียนทุนมูลนิธิโตโยต้าฯ และทุนมาซาโน่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะศึกษาศาสตร์  ปัจจุบันรับราชการครูที่โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย  เขาเปรยว่ามีวันนี้ได้เพราะรักเกียรติตนเอง รักเกียรติผู้อื่น และรักเกียรติสถาบัน  
         “เราเป็นเด็กบ้านนอก ไม่เคยมาขอนแก่นเลย ไม่มีเพื่อนมาด้วย เพราะเป็นเพียงคนเดียวในตำบลที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ นับว่าเป็นความหวังของตำบล ตอนจะเข้าเรียน หนทางมืดมน แต่หลังรู้ว่ามีผู้ใหญ่จากตำบลให้ทุนเรียน เปรียบเหมือนแสงสว่าง เราภูมิใจ มีกำลังใจเรียน ดีใจที่มีคนเห็นคุณค่าและความตั้งใจเรา ช่วยเหลือและส่งเสริมเรา เมื่อเข้าเรียนยังได้รับทุนจาก ทุนมูลนิธิโตโยต้าและทุนมาตาโน ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นยิ่งทำให้เราต้องตั้งใจใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นในทุกๆวัน ให้สมกับที่หลายคนให้การสนับสนุน”  
          การได้รับทุนการศึกษาเป็นเหมือนจุดเปลี่ยนให้นิรินาม ได้รับความรู้ และโอกาส บ่มเพาะให้เขามอบโอกาสให้ผู้อื่นอย่างไม่สิ้นสุด เมื่อรับราชการครูได้นำประสบการณ์ ให้วิชาความรู้ อบรมบ่มเพาะเด็กนักเรียน สอนให้เด็กช่วยเหลือสังคม ใช้ชีวิตบนแนวทางที่ถูกต้องเหมือนที่ตนเคยได้รับ
        “นักศึกษาบางส่วนไม่มีฐานะ แต่มุ่งมั่น ตั้งใจ ฝ่าฝัน เข้ามหาวิทยาลัยขนแก่นได้ ขอขอบคุณพี่ๆศิษย์เก่าจากใจจริงที่มอบทุนให้น้อง เหมือนพี่ได้มอบแสงสว่างให้น้องๆ ไม่ใช่แค่ผ่านพ้นไปวันๆ แต่เป็นการปลูกฝังให้ตั้งมั่นในความดี  ทำให้น้องระลึกถึงคุณค่าที่เขาได้รับ  ก้าวออกไปสู่สังคมในนามมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติต่อไป”  
         “น้องโชคดีที่ได้เรียนที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และโชคดีเป็นสองเท่าที่ได้รับทุนการศึกษา ไม่ว่ามากหรือน้อย ให้ถือเป็นเป็นกำลังใจ ในการดำเนินชีวิตอยู่ในสถานที่อันทรงคุณค่า ได้รับเกียรติจากคนอื่นที่มอบทุนให้เรา จงตั้งใจทำหน้าที่ ให้สมกับที่คนอื่นได้มอบเกียรติและคุณค่าให้แก่เรา” นิรินาม กล่าวปิดท้ายอย่างน่าขบคิด
 
     บุคลากร ศิษย์เก่า หรือผู้สนใจ สามารถติดต่อบริจาคทุนการศึกษาได้ที่ งานทุนกองกิจการนักศึกษา 0-4320-2356  https://sac.kku.ac.th/   และสำนักงานศิษย์เก่าสัมพันธ์ 0-4320-2750  http://alumni-affairs.kku.ac.th/new/  
ชื่อบัญชี กองทุนมอดินแดง ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี  551-2-69277-5 
ชื่อบัญชีกองทุนมอดินแดง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น
บัญชีออมทรัพย์  เลขที่บัญชี 438-1-18341-2 
       การบริจาคเงินสมทบทุนการศึกษา สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 200% ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547 (ตามเอกสารแนบ)